'MIYAVI' ทำเซอร์ไพรส์บินลัดฟ้าเยือนไทยปฏิบัติภารกิจเยี่ยมค่ายอพยพผู้ลี้ภัย UNHCR
'MIYAVI' อีกหนึ่งมือกีต้าร์ระดับเทพ
ลัดฟ้าบินด่วนเยือนไทยแบบสุดเซอร์ไพรส์
เพื่อปฏิบัติภารกิจของสำนักงานข้าหลวงใหญ่
ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR
เยี่ยมเยือนผู้ลี้ภัยในค่ายอพยพของประเทศไทย
'MIYAVI' เพิ่งเสร็จสิ้นจากการแสดง
คอนเสิร์ตในไต้หวันเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2017
ก่อนเดินทางมายังประเทศไทยแบบเงียบๆ
และ พบปะกับสื่อมวลชนไทยในเวลา 15.00 น.
ของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2017
'MIYAVI' เดินเข้ามาในห้องประชุมชั้น 7
ของ UNHCR พร้อมกับ
'BOBO' มือกลองชาวญี่ปุ่น
'LENNY' มือคีบอร์ดชาวอเมริกัน
ยกมือไหว้ และ กล่าวคำทักทาย
เป็นภาษาไทยชัดเจนว่า
"สวัสดีครับ"
หลังจากนั่งประจำที่กันเรียบร้อย
'MIYAVI' แนะนำตัว รวมทั้ง เล่าถึง
วัตถุประสงค์ในการเดินทางมาเยือน
ประเทศไทยในครั้งนี้
ภารกิจหลักของ 'MIYAVI' มี 2 ข้อ คือ
การรับรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นในเอเชีย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์
ด้านผู้ลี้ภัย รวมทั้ง พบปะกับบรรดาผู้ลี้ภัย
ที่เคยร่วมแสดงในมิวสิควิดีโอ เพลง
และ หวังว่าจะมีโอกาสได้เล่นดนตรี
ร่วมกับพวกเขาเหล่านั้น
'MIYAVI' เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนตั้งคำถาม
ได้อย่างเต็มที่ โดยคำถามส่วนใหญ่
เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ให้กับ UNHCR
สำหรับคำถามเกี่ยวกับความรู้สึกที่ได้จากการ
พบปะผู้ลี้ภัยนำมาถ่ายทอดเป็นบทเพลง
'MIYAVI' ตอบว่า
"เพลงที่แต่งขึ้นมาหลังจากได้พบปะกับ
บรรดาผู้ลี้ภัย คือ 'Long Nights'
ในอัลบั้ม 'FREE BIRD' บรรยายความรู้สึก
ของบรรดาผู้อพยพที่ต้องอยู่ในเรือ
ล่องไปตามน่านน้ำของประเทศต่างๆ
นอกจากนั้น พวกเขายังต้องยอมจ่ายเงิน
เพื่อแลกกับสิทธิการเดินทางเข้าไปยัง
ประเทศนั้นๆ ซึ่งในบางครั้งการเฝ้ารอ
อันยาวนานที่จบลงด้วยความสิ้นหวัง"
นอกจากนั้น 'MIYAVI' ยังกล่าวเสริมว่า
"นักดนตรีมักพูดกันว่าเราควรวางตำแหน่ง
ตัวเองให้ชัดเจน ไม่ควรไปยุ่งกับการเมือง
ไม่มีใครอยากฟังเพลงที่เกี่ยวกับความเจ็บปวด
แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้นักดนตรี
ควรมีส่วนร่วมด้วยวิธีที่แตกต่างจากในอดีต
และ เป็นวิธีที่ทุกคนรู้สึกว่ามันเท่ห์"
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการแบ่งปันความรู้
และ วิธีดึงแฟนเพลงเข้ามามีส่วนร่วม
ในกิจกรรมช่วยเหลือผู้อพยพ
'MIYAVI' ให้ความเห็นว่า
"ผมพยายามปฏิบัติหน้าที่ 3 ประการให้กับผู้ลี้ภัย
เรื่องแรกคือการเล่นกีต้าร์ให้พวกเขาฟัง รวมถึง
การบริจาคกีต้าร์เพื่อให้พวกเขา
สามารถนำไปฝึกฝนด้วยตนเอง
ประการที่ 2 คือ การสร้างแรงบันดาลใจ
ให้กับตัวเองในการทำงานเพลง
ประการที่ 3 ผมเผยแพร่งานเพลงเหล่านั้น
ให้แฟนเพลงของผม และ ผู้คนที่ไม่รู้เกี่ยวกับ
เรื่องราวเหล่านี้
สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความรู้ และ ความใส่ใจ
แฟนเพลงของผมให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
เราศึกษาเรื่องนี้ และ เติบโตไปพร้อมๆ กัน"
ต้องยอมรับว่าการตอบคำถามทุกคำถาม
ด้วยความตั้งใจตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง
สามารถถ่ายทอดความทุ่มเทที่ร็อคเกอร์หนุ่มคนนี้
มีต่อการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยได้เป็นอย่างดี
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ 'MIYAVI' ย้ำบ่อยครั้งว่า
อยากมาเปิดการแสดงในไทยอีกครั้ง
แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน
ก็ได้แต่หวังว่าวันที่ 'MIYAVI' จะมาเปิดการแสดง
ให้แฟนเพลงชาวไทยได้ชมกันอีกครั้ง
คงจะมาถึงในไม่ช้านี้
Special Thanks: UNHCR
Photo by: Chanawut Virapriya
Ariticle by: (...no) muzume
*กรุณาใส่เครดิตในกรณีที่นำภาพ และ ข่าวไปเผยแพร่
ชมคลิปสัมภาษณ์ 'MIYAVI'
Part 1
