อยากเป็นนักร้องนำ...แค่ชอบร้องเพลงมันพอไหมนะ?

แค่ร้องเพลงเพราะอาจยังไม่พอ ถ้าคุณฝันอยากเป็น “นักร้องนำวงดนตรี”

สำหรับหลายคนที่หลงใหลในการร้องเพลงและต้องการพัฒนาทักษะของตัวเอง อาจยังไม่รู้ว่าการเพลงเพราะเพียงอย่างเดียวไม่ทำให้กลายเป็นนักร้องนำที่พร้อมยืนบนเวทีจริงๆ ได้ โดยเฉพาะถ้าคุณมีฝันอยากเป็นนักร้องระดับมืออาชีพ หรือเป็นหัวใจสำคัญของวงดนตรี

วันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงความแตกต่างระหว่างคนที่ร้องคาราโอเกะเก่ง กับนักร้องนำในวงดนตรี และหากต้องการก้าวไปอีกขั้น ควรฝึกซ้อมอย่างไรเพื่อให้ก้าวขึ้นไปยืนบนเวทีจริงได้

ความเก่งในคาราโอเกะกับการเป็นนักร้องนำที่ดีมีความแตกต่างกัน

ปัจจุบัน อุปกรณ์ร้องคาราโอเกะมีระบบการให้คะแนนละเอียดยิบ อิงตามคีย์ เสียงวิบราโต และจังหวะ ทำให้หลายคนสามารถฝึกร้องจนได้คะแนนสูงลิ่ว

แต่เมื่อต้องร้องร่วมกับวงดนตรีสด สภาพแวดล้อมย่อมเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นความสั่นสะเทือนจากเบส หรือเสียงกลองที่เข้ามาในจังหวะที่แตกต่างกัน สร้างความท้าทายให้การร้องเพลงมากยิ่งขึ้น

ผู้ที่ร้องคาราโอเกะได้คะแนนสูงลิ่ว อาจไม่สามารถร้องให้กลมกลืนกับการเล่นดนตรีสดได้ เพราะวงดนตรีไม่ได้มีการปรับเสียงแบบอัตโนมัติ ไม่มีเสียงคลิกหรือเครื่องมือช่วยเทียบคีย์ คุณต้องรู้จักเสียงของตัวเองและฟังเสียงรอบตัวให้ดี เพื่อที่จะรักษาเสียงและอารมณ์ให้เข้ากับดนตรีได้

การฝึกอย่างจริงจังสำหรับผู้ที่อยากเป็นนักร้องนำ

การที่จะมีเสียงที่ชัดเจนและพุ่งนั้นต้องอาศัยการใช้กล้ามเนื้อภายใน (Core Muscle) ไม่ใช่แค่กล่องเสียงหรือปอดเพียงเท่านั้น

วิธีฝึกง่ายๆ คือ:

1. นอนหงายและชันเข่า
2. วางมือบนหน้าท้อง
3. ออกเสียงพร้อมรู้สึกถึงการขยับของกระบังลม

การฝึกวันละเพียงแค่ไม่กี่นาทีแต่สม่ำเสมอจะช่วยให้ควบคุมลมหายใจได้ดีขึ้น ทำให้เสียงมีความนิ่งขึ้น เมื่ออยู่ในสถานการณ์จริง

เข้าใจความรู้สึก = สื่อสารผ่านเสียงอย่างมีประสิทธิภาพ

เสียงที่ไพเราะอาจดึงดูดใจผู้ฟัง แต่เสียงที่สามารถ “สื่อสาร” คือเสียงที่สามารถ “สะกดใจ” ผู้ฟังได้อย่างแท้จริง

ก่อนที่จะร้องเพลงไหน ให้ลอง:

1. อ่านเนื้อเพลงให้เข้าใจ
2. แปลความรู้สึกออกมา
3. จินตนาการว่าคุณคือผู้เขียนเพลงนั้น

เมื่อเชื่อมโยงกับเรื่องราวได้ เสียงของคุณจะมีชีวิตชีวาขึ้นโดยอัตโนมัติ

ตั้งใจฟังเพื่อนร่วมวง และร้องให้กลมกลืน

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักร้องนำคือ “การประสานเสียง” ไม่ใช่เพียงแค่ “การนำ”

แม้ว่าคุณจะเป็นนักร้องนำ แต่ถ้าคุณไม่ฟังเสียงดนตรีรอบตัว เพลงที่ร้องอาจออกมาไม่ลงตัว

ลองฝึกโดย:

1. เปิด backing track หรือเพลงที่ต้องร้อง แล้วร้องตามให้เข้ากับจังหวะ

2. สังเกตว่ากลองเข้ามาเมื่อไหร่ เบสลากไปทางไหน

3. ปรับไดนามิกเสียงให้เข้ากับอารมณ์ของทั้งวง

ฝึกซ้ำจนเข้าใจเสียงของตัวเอง

ไม่มีทางลัดสำหรับการมีเสียงที่ดี การฝึกจึงเป็นหัวใจสำคัญของนักร้องทุกคน

1. ซ้อมร้องคนเดียวหน้ากระจก

2. อัดเสียงตัวเองแล้วฟังซ้ำ

3. ฝึกร้องกับ backing track

4. ฝึกร้องสดกับเครื่องดนตรีจริง

5. ฟังและปรับแก้จุดที่ยังรู้สึกว่าไม่ดีพอ

ยิ่งฝึกมากเท่าไหร่ จะยิ่ง “เข้าใจเสียงตัวเอง” มากเท่านั้นขึ้น สิ่งนี้ถือเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับนักร้องทุกคน

เคล็ดลับสำหรับผู้ที่ต้องการยืนบนเวทีด้วยความมั่นใจ

1. ร้องเก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้อง “ฟังเก่ง” ด้วย

2. การฝึกใช้กล้ามเนื้อ ฝึกลมหายใจ จะทำให้เสียงนิ่งกว่าเดิม

3. เข้าใจเพลงให้ลึกซึ้ง ร้องด้วยอารมณ์ ไม่ใช่แค่เสียงเพียงอย่างเดียว

4. ฟังเพื่อนร่วมวงให้มาก ซ้อมร่วมกับจังหวะจริง

5. ฝึกซ้ำๆ ฟังเสียงตัวเอง อย่ากลัวความผิดพลาด

เสียงที่ดีไม่จำเป็นต้องดังที่สุด แต่ต้อง “เป็นตัวคุณ” ที่สุด

Credit: BAND Knowledge

Visitors: 157,491